Woz (Steve Wozniak) เกิดวันที่ 11 Aug 1950
ในบรรดา “คนสำคัญ” ในวงการไอที ตา Woz นี่แหละที่ผมรักที่สุด แกน่ารักจริงๆ ครับ ไม่ค่อยเหมือนคนดังคนอื่นๆที่น่าชื่นชม แต่ไม่ค่อยน่ารัก
ฝรั่งก็เห็นด้วยครับ ไม่ใช่ผมว่าไปเอง Woz ได้รับการยอมรับว่าเป็นคนที่ “Cool, Likable and Approachable” แปลว่า เจ๋ง, น่ารัก, ติดดิน…
วันที่ iPad ออกขาย ตา Woz นี่ไปกางเต้นท์นอนหน้าร้าน Apple Store กับเค้าด้วย นั่งเล่น Tetris บน Game Boy รอซื้อiPad เหมือน Geek ทั่วไป
นักข่าวไปเจอเข้า ถามตา Woz ว่าบ้าป่าว มาเข้าคิวงี้ Woz ตอบว่าสั่งซื้อไปแล้วเป็นโหล แต่ถ้าไม่เข้าคิวมันจะได้ Feel ของสาวกได้ไงฟะ
ในวันพุธที่ผ่านมาเป็นวันครบรอบวันเกิดปีที่ 60 ของตา Woz ฟังเพลงอวยพรวันเกิดกันนะครับ จะได้รู้ว่าน่ารักไง
Video “That’s just The Woz” ร้องโดย Jonathan Mann คนดังที่ร้อง iPhone 4 Antenna Gate ไปนั่นแหละ… video อธิบายตัวตน Woz ได้ดี
Woz เป็น Geeks ที่มีความสามารถสูง แต่ที่สำคัญคือ เค้าทำส่ิงที่ใจปรารถนาและสนุก ไม่ค่อยคิดถึงเงินเท่าไร ใน Video กัดหลายคนในชีวิต Woz
จะเห็นได้ว่า รูปและวิดีโอของ Woz จะยิ้มอย่างมีความสุขตลอด ผิดกับตาจ๊อบส์ที่มีแต่รูปตะโกนโหวกเหวก โวยวาย กระโดดกัดคน โยนของ ฯลฯ
Woz เล่าเรื่องของตัวเองในหนังสือชื่อ iWoz ว่าในวัยเด็กนั้น บิดาเป็นคนสอนให้รู้จักเรื่อง Electronics ชนิดรู้จริง…และ Woz ชอบมาก…
ตอนเด็กๆ Woz ส่งงานประดิษฐ์ทางอิเล็คโทรนิคส์ทีไรก็ได้รางวัลไปซะทุกที เรียกว่าความสามารถสูงมาตั้งแต่เด็กๆ…
Woz มี “งานอดิเรก” คือดูวงจรอิเล็กโทรนิกส์ชาวบ้าน แล้ว “redesign” ให้มันใช้ชิ้นส่วนที่น้อยลง… ซึ่งส่งผลให้กลายเป็น system engineer ชั้นยอด
ตอนที่ Woz เจอกับ Jobs นั้น Woz เรียนมหา’ลัยปีสุดท้าย ตาจ๊อบส์ยังเป็นเกรียนมัธยมอยู่ เป็นเพื่อนกันเพราะชอบเพลงและอิเลคโทรนิกส์เหมือนกัน
ธุรกิจแรกที่ทำกัน ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ แต่เป็นเครื่องเล่นเกม Woz ทำเกม Breakout แล้ว Jobs เอาไปช่วยขายให้ Atari บอกว่าจะแบ่งเงินกันครึ่งๆ
ตาจ๊อบส์แบ่งเงินให้ Woz $375 เหรียญ บอกว่าขายไป $750 แต่ภายหลัง Woz จับได้ว่าตาจ๊อบส์ขายได้ตั้ง $5,000
เรื่องแบ่งตังค์นี่ Woz เขียนเล่าเองในหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเองในแบบติดตลก ไม่ได้ถือสาอะไร เพราะเป็นเรื่องผ่านไปในวัยเด็ก…
Woz กับตาจ๊อบส์ เริ่มทำคอมพิวเตอร์เมื่อต้นทศวรรษ 1970s เข้าหุ้นกันแบบหมดตัวทั้งคู่ Woz ขายเครื่องคิดเลข HP จ๊อบส์ขายรถโฟล์ก ได้เงิน $1,300
เอาเงินที่ได้มา มาทำต้นแบบคอมพิวเตอร์กันในห้องนอนของจ๊อบส์ เพราะห้องที่หอพักของ Woz มันรกจนทำงานไม่ได้…เต็มไปด้วยเครื่องอิเล็กโทรนิกส์..
ทำจนห้องนอนจ๊อบส์เต็มไปอีกห้อง ก็ย้ายกันลงมาทำงานกันในโรงจอดรถ เพราะรถขายไปแล้ว… จนได้ต้นแบบของคอมพิวเตอร์ Apple I
Woz เล่าว่า ไอ้การทำคอมพิวเตอร์น่ะ Woz ทำเองหมด ส่วนตาจ๊อบส์นั้นทำเรื่องธุรกิจ ซึ่งทำได้ดีมาก ขายได้ตั้งแต่เครื่องยังเป็นวุ้นอยู่…
จ๊อบส์มีความสามารถมากในการกล่อมคนให้เชื่อ…ตานี่ขายคอมพิวเตอร์ล็อตแรกได้ 100 ตัวๆละ $500 ตั้งแต่เครื่องยังเป็นวุ้นอยู่…
Woz เล่าเองว่า ไอ้ความสามารถทางธุรกิจและการขายของตาจ๊อบส์นี่ Woz เองไม่มีวันทำ และไม่มีวันทำได้… การรวมกันสองคนนี่จึงเป็นสิ่งสุดพิเศษ
ตอนทำ Apple I ไม่เสร็จดี Woz เริ่มคิดถึง Apple II แล้วครับ ดังนั้นตอนออก Apple II มามันจึงเป็นเครื่องที่สุดยอดมาก …
Woz เป็นเอนจิเนี้ยเอนจิเนีย… ออก Apple II มีกราฟฟิกไฮเรส คนตื่นเต้นมาก ตานี่บอกทำไปงั้นแหละ ไม่รู้คนใช้ป่าว ทำเพราะมันใช้ชิพเพิ่ม 2 ตัวเอง
นี่แหละครับ Woz ตานี่แกซื่อๆ ฮาๆ ดี ตอบอะไรสัมภาษณ์อะไร ก็ฮาไปหมด… ไม่ค่อยเขี้ยวแบบคู่หู..คนเลยรักตานี่มาก
พอเริ่มต้นตั้งบริษัท Apple ตาจ๊อบส์ก็ชวนให้ Woz ลาออกจากงานที่ HP แต่ Woz ไม่ยอมครับ เพราะอยากทำงานเป็น Engineer ตาจ๊อบส์กล่อมอยู่นานมาก
และจ๊อบส์ก็กล่อมสำเร็จด้วยประโยคเดียว “มรึงไม่อยากทำอะไรที่มันสุดๆเหรอ..แบบว่าอีกหน่อยคิดย้อนกลับมาแล้วภูมิใจมากๆ..แม้มันจะไม่สำเร็จก็ตาม..”
ประโยคนี้แหละครับ ที่ไอ้หนูจ๊อบส์ ทำให้ Apple Compuer เกิดขึ้นได้… ตา Woz ลาออก จาก HP เพราะประโยคนี้แหละ… กรูอยากทำอะไรสุดๆเหมือนกัน…
ประโยคนี้สำคัญครับ มันไม่ใช่แค่ “ทำอะไรที่สุดยอด” แต่มันต้อง “ภูมิใจ” ที่ได้ทำด้วย…แม้ว่า “มันจะล้มเหลว” ก็ตาม..
จ๊อบส์บอกหลายอย่างในประโยคนั้นครับ อย่างแรกคือชี้ให้เห็นว่านี่คือโอกาส ที่จะได้ทำอะไรที่สุดยอด ตามที่ Woz เองก็มีความปรารถนาลึกๆที่จะทำ…
อย่างที่สองคือถ้า Woz ทำ มันจะเป็นผลงานที่ Woz จะภูมิใจอย่างยิ่ง และประการที่สามคือสองอย่างแรกที่ได้รับ เพียงพอต่อการเผชิญกับความล้มเหลวครับ
จ๊อบส์และ Woz ไม่ได้ “ฝันเฟื่อง” ถึงแต่ความสำเร็จในอากาศ แม้รู้ว่าสิ่งที่กำลังทำนั้นยิ่งใหญ่เพียงไร ก็รู้ว่ามันมีความเสี่ยง แต่พร้อมที่จะทำ
แน่นอน..ทั้งสองประสบความสำเร็จอย่างงดงามกับคอมพิวเตอร์ Apple II และบริษัทก็เข้าตลาดหุ้นไปในปี 1980 หลังจากออกวางขาย Apple II เพียง 2 ปี
ทั้งสองหนุ่มกลายเป็นเศรษฐีไปในชั่วข้ามคืนครับจากความสำเร็จนั้น… Apple กลายเป็นที่จับตาของคนทั้งโลก
จ๊อบส์นั้นเป็นที่รู้กันว่าขี้งก… ตานี่ไม่ยอมแบ่งหุ้นของตัวเองให้ใครเลย แม้ตอนนั้นมีเด็กๆมาร่วมงานใน Apple จำนวนหนึ่ง…
ผิดกับ Woz ที่แบ่งหุ้นของตัวเองออกมา แจกให้พนักงานหลายคน หรือบางคนก็ขายให้แบบ “ถูกมากๆ” …
เหตุการณ์การขายหุ้น “The Woz Plan” นั่นแหละครับ ที่วิดีโอบอกว่า Woz ทำงานเพื่อความปรารถนา (passion) ความสุข (fun) ไม่ใช่เพื่อเงิน (money)
เห็นมั้ยครับว่า ตา Woz นี่น่ารักขนาดไหน แต่โชคร้ายครับ ในปีต่อมา 1981 เค้าประสบอุบัติเหตุเครื่องบินส่วนตัวตก เพราะตานี่ขับไม่ชำนาญ
เหตุการณ์เครื่องบินตกทำให้ Woz สูญเสียความทรงจำไปครับ เลอะเลือนไปหมด สับสนเรื่องวันเวลา สถานที่ หลงลืมไปหมด…
จำไม่ได้แม้แต่เหตุการณ์เครื่องบินตก… Woz คิดว่าทุกวันเป็นวันหยุด เลยไม่ไปทำงาน … อันนี้ที่ทำงานผมก็มีอยู่หลายคนเหมือนกัน…
วันนึงไปถามสาวแผนกบัญชีเรื่องเครื่องบินตก สาว Candi Clark เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง จนตานี่เกิดจำได้ขึ้นมา ก็เลยแต่งงานกับสาวคนนี้ซะเลย…
พออาการหลงลืมดีขึ้น Woz ก็ลาออกจาก Apple ไปเรียนต่อครับ เพราะแกเรียนไม่จบเหมือนตาจ๊อบส์นั่นแหละ แต่กลับไปเรียนต่อจนจบ พอจบก็กลับมาทำงานApple
Woz เข้ามาทำงาน Apple อีกครั้งในปี 1983 ในฐานะ engineer ครับ ไม่ได้ทำบริหารอะไร เพราะแกไม่ชอบ จนปี 1987 ก็ลาออกจาก fulltime แต่รับเงินเดือน
Woz ยังคงทำงานให้ Apple อยู่ครับ แม้ไม่ Fulltime ในตอนนั้น เป็นที่ปรึกษา และ “คอยให้กำลังใจ” พนักงาน นัยว่าคอยปลอบตอนโดนศาสดาด่าน่ะ
ช่วงนี้เกิดความร้าวฉานนิดหน่อยจากผลของสื่อครับ Woz ออกจาก Apple ตั้งบริษัทชื่อ CL-9 โดยบอกว่าไม่ได้มีความผิดใจอะไรกับ Apple แต่สื่อลงเวอร์ไป
Woz ตั้งบริษัท CL-9 ทำ remote control ที่มีเทคโนโลยี GPS ครับ เอาไว้หาของใช้ประจำวันที่หาไม่เจอ … ตานี่ท่าทางยังไม่หายขึ้ลืมครับ…
แต่เหตุการณ์ที่คนทั้งโลกช๊อกก็คือ ตา Woz เข้าประกวดเต้นรำในรายการ “Dancing with the stars” ในปี 2009 ที่เห็นในวิดีโอ
ผลรอบแรกได้คะแนนห่วยสุดครับ 10 เต็ม 30 ตานี่ก็โวยวายกรรมการจนเค้ายอมให้ผ่านไปเต้นรอบต่อไป…แต่โชคร้ายครับเต้นพลาดจนข้อเท้าหัก…
Woz เต้นรำจนข้อเท้าหัก (ก็น้ำหนักตัวแกขนาดนั้น) แต่ยังติดตลกต่อว่าคะแนนรอบนี้ได้เพิ่มเป็น 12/30 และขอโทษกรรมการที่โวยวายในช่วงแรก…
ทุกวันนี้จะเห็น Woz ห้อยสร้อยคอเป็นห่วงเหล็กไว้ครับ แกบอกว่าเอาไว้เตือนตัวเองว่าแกอยู่ภายใต้กฎแรงโน้มถ่วงของโลก จะได้ไม่กระโดดโลดเต้นเจ็บตัว
Woz ทำอะไรที่ออกจะดูเพี้ยนๆครับ เช่น มีชมรมโปโลที่เล่นบน Segway ไอ้จักรยานล้อเดียวที่ขึ้นไปยืนน่ะครับ ล่าสุดเห็นว่าจะแสดงหนัง…
แม้ตา Woz นี่จะดูเพี้ยนๆ แต่ถ้าดูลึกไปในสิ่งที่ Woz ทำมา นี่แหละครับ อัจฉริยะที่น่ารักที่สุดในสายตาผม เรียกว่าเป็น idol เลยทีเดียวครับ…
ที่มา: http://web.me.com/mozeal/ThaiShortNews_LIVE/2010-08-14.html